WE CARE WE SHARE WE GROW ใส่ใจ แบ่งปัน เติบโตไปด้วยกัน
รวมตอชิ้นใหญ่ที่ชีวิตนายหน้าต้องเจอ
ปัญหาและอุปสรรค มักจะสร้างคนให้แข็งแกร่งยิ่ง ๆ ขึ้นไป คำพูดที่ดูแสนง่ายแต่ในความเป็นจริงแล้วมันโคตรยาก ยิ่งมือใหม่ยิ่งเสี่ยงที่จะถอดใจไม่กล้าที่จะก้าวต่อไปกันเลยก็มี ความจริงแล้วปัญหาใหญ่ ๆ ในการทำงานเป็นอะไรที่เราต้องพบเจออยู่แล้ว โดยเฉพาะการเป็นนายหน้าขายทรัพย์ ดังนั้นเลยเอาปัญหาใหญ่ ๆ ที่ทำให้เราเกิดอาการ “ชนตอ” มาให้ได้ศึกษา (ทำใจ) ก่อนลงมือทำงานกัน
ตอแรกที่เจอเลยก็คือกรณีที่
Developer
หรือผู้ใช้บริการเลือกใช้บริการจากนายหน้าหลายเจ้า
มันเป็นอะไรที่สุด ๆ จริง ๆ ยิ่งเป็นทรัพย์ที่เราหมายตาไว้ยิ่งต้องพยายามอย่างมากที่จะงัดทุกกลยุทธ์เพื่อให้ได้งานมาไว้ในมือ
ยิ่งเป็นทรัพย์โครงการด้วยแล้วการเรียกใช้นายหน้าก็ไม่ต่างอะไรกับการเอาไปเสริมกำลังให้กับเซลล์ที่คอยทำหน้าที่ขายอยู่แล้ว
เมื่อเป็นอย่างนี้สิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือการตีกันเองเพื่อแย่งชิงลูกค้า
ปิดการขายไม่ได้ รายได้ก็ไม่มี เหนื่อยฟรีอีกต่างหาก
แต่ก็อย่างที่เคยบอกไปแล้วว่าในชีวิตเรามันต้องเจอปัญหาอยู่แล้ว
ถ้าไม่ได้เงินก็ไม่เป็นไรคิดเสียว่าเราได้ค่าประสบการณ์และเครดิตในการทำงานก็พอที่จะย้อมใจได้นิดนึง
ความจริงแล้วที่ตอแรกมันผุดขึ้นมาก็เพราะว่ามันเกิดจากการที่บ้านเรายังไม่มีกฎหมายมาควบคุมเรื่องนายหน้า
ดังนั้นการเซ็นสัญญาแบบปิดหรือผูกมัดกับนายหน้าเพียงคนเดียวจึงไม่ค่อยเป็นที่นิยมหรือยอมรับกันสักเท่าไหร่
เมื่อเป็นอย่างนี้นายหน้าส่วนใหญ่เลยเผลอตัวเผลอใจทำตามความต้องการของลูกค้าจนลืมความสำคัญของเอกสารสัญญาต่าง
ๆ สุดท้ายโดนโกงค่านายหน้าจนต้องไปฟ้องร้องหาวิธีให้ได้เงินมา
เสียทั้งเวลาและความรู้สึก
อีกตอหนึ่งที่เรียกว่าทำให้หลายคนถึงกับเซ็งมากก็คือการที่คนซื้อตั้งหน้าตั้งตามาหลอกกันตั้งแต่แรกเริ่ม
ไม่ว่าด้วยเหตุผลกลใดก็ตามผู้ซื้อประเภทนี้มักจะหาข้อมูลของทรัพย์ที่ต้องการแล้วติดต่อนายหน้าเพื่อขอดูสถานที่จริง
เนียนถามข้อมูลแบบเจาะลึกถึงลูกถึงคน
นายหน้าบางคนก็ไม่ทันระวังด้วยความที่อยากได้ลูกค้าก็พูดเป็นน้ำไหลไฟดับลืมใส่เบรค
สุดท้ายคนซื้อก็แอบไปหาข้อมูลเจ้าของทรัพย์เพื่อหาช่องทางที่จะซื้อตรงโดยไม่ผ่านนายหน้าอย่างเรา
ๆ งานนี้นั่งเศร้ากันเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตามใครที่เจอปัญหาเหล่านี้อยากบอกว่าอย่าเพิ่งท้อให้มาก
ถึงอยากจะเลิกแค่ไหนก็ขอให้ครบ 1 ปี หรือ 100 ทรัพย์ก่อนค่อยถอดใจ แล้วมองไปที่นายหน้าคนอื่นว่าเขายังทำได้ “กูต้องทำได้เหมือนกัน” แล้วลุกขึ้นสู้อีกครั้ง
อยากให้เจ้าของทรัพย์ทำสัญญา
แต่ว่ากลัวไม่ได้งานต้องทำอย่างไรดี
ขึ้นชื่อว่าลายเซ็นและสัญญาคนส่วนใหญ่พอได้ฟังก็พากันส่ายหน้าหนีไม่มีใครอยากจะทำด้วย
เพราะใครก็รู้ดีว่าต่างต้องรับผิดชอบกับลายเซ็นของตัวเองพอ ๆ กับคำพูด ยิ่งเป็นหนังสือสัญญายิ่งทำให้ลำบากใจหนักกว่าเดิมเพราะมันจะเป็นหลักฐานมัดตัว
จึงไม่แปลกที่จะเห็นป้ายงดนายหน้าอยู่เกลื่อนเมือง
นายหน้ามือใหม่ต่างพากันถอดใจไม่กล้าขอทำสัญญานายหน้า
สุดท้ายกลายเป็นว่าโดนโกงค่าเหนื่อยไปแบบหน้าด้าน ๆ ก็มีอยู่เยอะ
มูลเหตุจูงใจที่ทำให้เจ้าของทรัพย์ไม่อยากทำสัญญาส่วนมากมาจากไม่อยากผูกมัดนั่นเอง
ทำนองว่าหากทำกับนายหน้าคนใดคนหนึ่งแล้วเกิดทำไม่ได้
ก็ต้องไปเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่กับคนอื่น
หรือบางคนเลือกที่จะบอกกับนายหน้าหลายคนแต่ไม่ต้องการทำสัญญาเพราะไม่อยากทำสัญญาหลายฉบับ
ณ จุดนี้นายหน้าจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจให้กับเจ้าของทรัพย์
เมื่อมีท่าทีว่าไม่ต้องการทำสัญญานายหน้า
ต่อให้คุณเสนอเป็นสัญญาแบบเปิดก็ไม่ได้หมายความว่าเขายินดีที่จะเซ็นสัญญา
ดังนั้นเราต้องทำผลงานให้เจ้าของทรัพย์ได้เห็นความคืบหน้ากันไปบ้าง เช่น มีประกาศขายทรัพย์ในเว็บไซต์หรือโซเชียลมีเดีย
ปิดป้ายประกาศ พาคนมาดูทรัพย์
เมื่อเกิดความคืบหน้าของงานแล้วก็ค่อยขอทำสัญญานายหน้าจะแบบเปิดหรือแบบปิดก็ได้เอาที่ลูกค้าสะดวกใจและเราไม่เสียเปรียบ
ตรงนี้อาจให้เหตุผลไปว่ามีทีมนายหน้าหลายคนต้องการให้เจ้าของทรัพย์ทำสัญญาเพื่อสร้างความมั่นใจต่อกันในการทำงาน
เมื่อมาถึงขั้นตอนนี้แล้วเจ้าของทรัพย์ยังบ่ายเบี่ยงที่จะทำสัญญา
อาจโน้มน้าวให้เจ้าของทรัพย์เขียนข้อความลงในสำเนาโฉนดที่ดินแทนก็ได้
โดยใช้ข้อความง่าย ๆ ว่า “มอบหมายให้…(ชื่อนายหน้า)… เป็นนายหน้าขายที่ดินแปลงนี้” แล้วให้ผู้เป็นเจ้าของทรัพย์ (ผู้ที่ถือกรรมสิทธิ์)
เป็นผู้ลงนามพร้อมวันที่ไว้ เพียงเท่านี้ก็สามารถใช้เป็นหลักฐานตามกฎหมายได้แล้ว
ทางด้านเจ้าของทรัพย์ก็ดูจะสบายใจอีกด้วย
เพราะไม่ต้องมานั่งอึดอัดใจทบทวนข้อความต่าง ๆ ที่ระบุไว้อย่างเป็นทางการในสัญญา